Unit:

พิษเศรษฐกิจดันบ้าน-คอนโดมือสองบูม แห่รีโนเวทขาย-เช่า รับดีมานด์แรง

พิษเศรษฐกิจดันบ้าน-คอนโดมือสองบูม แห่รีโนเวทขาย-เช่า รับดีมานด์แรง 3

"พิษเศรษฐกิจเร่งกระแส ‘คอนโด-บ้านมือสอง’ คึกคัก ผู้ซื้อผ่อนต่อไม่ไหว นักลงทุนรีโนเวทยกแผง ปล่อยขาย-ปล่อยเช่ารับดีมานด์แซงบ้านใหม่"

ในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเผชิญภาวะชะลอตัว ผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายเริ่มลดขนาดโครงการ และหันไปเน้นตลาดไฮเอนด์เพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม กลับมีผู้เล่นหน้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และสถาปนิก ที่เข้ามาผลักดันตลาดบ้านมือสองและคอนโดมิเนียมผ่านการรีโนเวททรัพย์จากกรมบังคับคดี แล้วนำกลับมาขายต่อด้วยกำไรเฉลี่ยสูงถึง 10-15% ซึ่งสูงกว่าบ้านใหม่ที่มีกำไรเพียงหลักเดียวในบางราย

ข้อมูลจากสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรชี้ว่า “บ้านมือสอง” กลายเป็นดาวเด่นของตลาดในปี 2567 โดยมีสัดส่วนถึง 62% ของยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ตัวเลขนี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ซื้อที่หันมาเลือกบ้านที่มีราคาคุ้มค่าและอยู่ในทำเลดีมากขึ้น หลายบริษัทเริ่มพิจารณาธุรกิจบ้านมือสองในรูปแบบ "เช่าซื้อก่อน" รองรับกลุ่มลูกค้าที่กู้ซื้อไม่ผ่านทันที และตอบโจทย์เมกะเทรนด์การอยู่อาศัยแบบยืดหยุ่น

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านมือสองได้รับความนิยม คือ ‘ทำเล’ ส่วนใหญ่อยู่ตามซอยในย่านใจกลางธุรกิจ หรือ ซีบีดี และ ‘ราคา’ ที่ดึงดูดใจกว่าบ้านใหม่ราว 20% ซึ่งในช่วงเศรษฐกิจชะลอ คนผ่อนไม่ไหว บ้านถูกยึด และเข้าสู่กรมบังคับคดีอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นโอกาสของนักลงทุนสายรีโนเวทที่เห็นมูลค่าตรงจุดนี้”

Source: Bangkokbiznews

แนวโน้มนี้ยังสอดคล้องกับพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มใหม่ เช่น วิศวกรและสถาปนิก ที่เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว นำมาปรับปรุงแล้วขายหรือปล่อยเช่า เพราะอาคารหลังปี 2550 มีโครงสร้างป้องกันแผ่นดินไหวที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ดึงดูดผู้ซื้อและผู้เช่ากลุ่มใหม่ ส่งผลให้ตลาดบ้านและคอนโดมือสองขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกัน การสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจำนองเหลือเพียง 0.01% ช่วยกระตุ้นให้กลุ่มมนุษย์เงินเดือนและอาชีพอิสระสามารถเข้าถึงตลาดบ้านมือสองได้ง่ายขึ้น กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่บางรายยึดเป็นอาชีพหลัก โดยเฉพาะบ้านมือสองในทำเลกลางเมืองที่ยังมีราคาจับต้องได้ และขอสินเชื่อได้ง่ายกว่า เนื่องจากทรัพย์เหล่านี้อยู่ในระบบของธนาคารอยู่แล้ว

ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่าง “เอพี ไทยแลนด์” ยังเริ่มรุกธุรกิจบ้านมือสองเต็มตัวผ่านแบรนด์ HOMERUN ที่ผสานเทคโนโลยี Proptech ในการจัดซื้อและรีโนเวทบ้านใจกลางเมืองให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อโดยตรง โดยทำเลที่ตลาดเติบโตสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี นนทบุรี และพื้นที่ EEC ซึ่งสวนทางกับบ้านใหม่ที่ยังมีสต๊อกคงค้างกว่า 200,000 หน่วย และต้องใช้เวลากว่า 4 ปีในการระบาย บ้านมือสองจึงไม่เพียงเป็นทางเลือก แต่กลายเป็น “หัวหอก” สำคัญของตลาดอสังหาฯ ไทยยุคใหม่

Credit: Busakorn Phusae/Bangkokbiznews/15-05-2025

แชร์ไปยัง:

บทความแนะนำ

Compare listings

Compare

เทอร์รี่ เอสเตท ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น