ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยเผชิญกับแรงกดดันรอบด้าน ทั้งจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว การส่งออกชะลอ การท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากตลาดจีนที่หดตัวอย่างมาก รวมถึงภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวและนโยบายการเงินที่ยังตึงตัว ส่งผลให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลงในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรายใหญ่ในภาคอสังหาฯ ยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์เชิงรุก เร่งเปิดโครงการใหม่เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและกระจายความเสี่ยงสู่เมืองรองหรือทำเลศักยภาพอื่นๆ

Source: AP Thai
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 25 โครงการในครึ่งปีหลัง คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 27,440 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มคอนโดมิเนียมระดับกลาง อาทิ Aspire อิสรภาพ-สเตชั่น และ LIFE พระราม 4-อโศก พร้อมขยายตลาดสู่เมืองท่องเที่ยวหลัก เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติและผู้มีกำลังซื้อสูง โดยยังคงเน้นการออกแบบภายใต้แนวคิด Empathy Design ซึ่งมุ่งตอบโจทย์ผู้พักอาศัยจริง พร้อมความได้เปรียบด้านฐานะทางการเงินที่มั่นคง

Source: AP Thai
แสนสิริ ยังคงรุกตลาดต่อเนื่อง ด้วยแผนเปิดโครงการใหม่ 29 โครงการ มูลค่ารวม 52,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบ 14 โครงการ และคอนโดมิเนียม 15 โครงการ พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 53,000 ล้านบาท กลยุทธ์หลักคือขยายพอร์ตสินค้าในกลุ่มระดับพรีเมียมให้เพิ่มขึ้นเป็น 57% จากเดิม 35% และเน้นการพัฒนาในทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาและภูเก็ต
ศุภาลัย ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการทั่วประเทศ โดยเตรียมเปิดตัว 42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายที่ 36,000 ล้านบาท เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมในราคาจับต้องได้ พร้อมใช้กลยุทธ์ “Private Tour” เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะ และขยายตลาดไปยังต่างจังหวัดมากกว่า 30 จังหวัด นอกจากนี้ยังมุ่งสร้างรายได้จากต่างประเทศผ่าน Supalai Australia Holdings และกลับมาให้ความสำคัญกับตลาดคอนโดฯ อีกครั้ง
บริทาเนีย ยังคงโฟกัสโครงการแนวราบ โดยประกาศเปิดตัว 16 โครงการ มูลค่ารวม 17,500 ล้านบาท ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก เช่น ราชพฤกษ์ บางบัวทอง และพุทธมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังมีศักยภาพเติบโตสูงจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำกลยุทธ์มุ่งเน้นความแข็งแกร่งในทำเลที่คุ้นเคย
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ วางแผนเปิด 5-6 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 3,600 ล้านบาท โดยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางในเขตปริมณฑล เน้นจุดขายด้านราคาที่เข้าถึงได้และทำเลที่ดีในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เพื่อรักษาระดับการเติบโตท่ามกลางสภาพตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรง
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งเป้าเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท โดยเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มระดับบนในทำเลเมืองใหญ่และพื้นที่ EEC จุดแข็งสำคัญคือการออกแบบและวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาด upper market โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ที่มีกำลังซื้อเพื่ออยู่อาศัยระยะยาว

Source: Property Perfect
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เจาะตลาดลักชัวรีอย่างชัดเจน ด้วยโครงการ “Perfect Masterpiece พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา” บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์เริ่มต้นที่ 80 ล้านบาท มุ่งเป้ากลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการอยู่อาศัยใกล้โรงเรียนนานาชาติและพื้นที่ระดับพรีเมียม ซึ่งยังคงมีความต้องการสูงแม้ตลาดโดยรวมจะอ่อนแรง

Source: Property Perfect
เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ วางแผนเปิดตัว 12 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 11 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ โดยเน้นตลาด Affordable Segment ราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งเสนาเป็นเจ้าตลาดครองส่วนแบ่งสูงกว่า 20% โดยเฉพาะแบรนด์ Cozi ที่จะเปิดตัวถึง 6 โครงการในปีนี้ พร้อมตั้งเป้ายอดขายที่ 15,500 ล้านบาท และยอดโอน 10,000 ล้านบาท

Source: Sena
แม้ตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีแรก 2568 จะยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงเดินหน้าด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของตลาด ทั้งในแง่ของการพัฒนาทำเลใหม่ การปรับพอร์ตสู่ลักชัวรีและแนวราบ ตลอดจนการเร่งระบายสต็อกและบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหวังให้ครึ่งปีหลังสามารถฟื้นโมเมนตัม และวางรากฐานสู่การฟื้นตัวอย่างแข็งแรงในปี 2569 ต่อไป
Credit: Thansettakij/19-06-2025